เสียงคีย์บอร์ดดังลั่น จอมอนิเตอร์ร้อนเป็นไฟ และผู้เล่นก็กำลังจดจ่อขั้นสุด ยื้อเกมกันมานานกว่า 30 นาทีแล้ว ทันใดนั้น ทีมไฟต์ก็อุบัติขึ้นและฝั่งแดงชนะไป พวกเขาจัดการ Baron และกุมความได้เปรียบไปจนถึงเน็กซัส ส่งเสียงดีใจดังกระหึ่มในขณะคว้าชัยชนะมาครอง

พวกเราไม่ได้อยู่ใน O2 Arena ณ กรุงลอนดอน Summoner’s Cup ไม่ได้ตั้งอยู่ใจกลางสนาม แถมหน้าจอของผู้เล่นแต่ละคนก็ไม่ได้สลับไปมาเหมือน Faker แต่อารมณ์ความรู้สึกก็พุ่งทะลุหลอดไม่ต่างกัน เพราะนี่คือรอบ Finals ของ League of Legends Rumble 2024

อะไรคือ Rumble?

Rumble คือทัวร์นาเมนต์ประจำปีซึ่ง Rioter จะได้จับทีมห้าคน เลือกเล่นตัวเมน และเข้าห้ำหั่นกันกับ Rioter คนอื่น ๆ มีของรางวัลแบบจับต้องได้มากมาย หลัก ๆ เลยก็คือแจ็คเกตทีมรุ่นคัสตอม แต่ถ้าไปถาม Rioter คนใดก็ตาม พวกเขาก็จะตอบคุณว่ารางวัลที่แท้จริงน่ะหรอ “สิทธิ์ในการเกทับ” ยังไงล่ะ

“Riot ยังคงอยู่ในช่วงแรก ๆ อยู่เลยในตอนที่เราจัดตั้ง Rumble ขึ้นมาในปี 2012” Sue-Min Koh ผู้สร้างทัวร์นาเมนต์ Rumble ซึ่งตอนนี้ทำงานเป็นผู้จัดการโปรแกรมอาวุโสของทีมผลกระทบทางสังคมกล่าว “Rumble กำเนิดขึ้นมาได้ก็เพราะพวกเราอยากแข่งขันแบบกระชับมิตร เพราะตอนนั้นเราก็มี Rioter หลายคนที่เล่นเกมด้วยกันและก็มานั่งเถียงกันว่าใครกันแน่คือท็อปเลนที่เก่งที่สุดในบริษัท ดังนั้นเราจึงช่วยจัดการข้อถกเถียงเหล่านั้นผ่านการสร้างประสบการณ์แข่งขันแบบเป็นกิจจะลักษณะและถาวรไปเลย นั่นแหละ Rumble ถึงถือกำเนิดขึ้นมา”
 

Sue-Min (ด้านหน้าฝั่งขวา) โพสท่าร่วมกับทีม Rumble ของเธอในอีเวนต์ครั้งแรก ๆ
Sue-Min (ด้านหน้าฝั่งขวา) โพสท่าร่วมกับทีม Rumble ของเธอในอีเวนต์ครั้งแรก ๆ


อีสปอร์ตใน Riot ไม่ได้เป็นแบบทุกวันนี้เมื่อ 12 ปีที่แล้ว Worlds ครั้งแรกเพิ่งถูกจัดไปปีที่แล้วในงาน Dreamhack Summer ประเทศสวีเดน League ยังมีอายุแค่ 3 ปีและลีกอีสปอร์ตของเกมก็เพิ่งจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง 

“อีกหนึ่งประโยชน์ใหญ่หลัก ๆ ของ Rumble ก็คือมันช่วยให้ Rioter ในทุกระดับสามารถมองเห็นภาพของประสบการณ์อีสปอร์ตในระดับมืออาชีพ” Sue-Min กล่าวต่อ “การได้นำตัวเองเข้าไปสัมผัสประสบการณ์แบบเดียวกับผู้เล่นคือสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีที่สุดในแง่ประสบการณ์ของผู้เล่น และ Rumble ก็คือหนทางชั้นยอดที่จะช่วยให้ Rioter เข้าใจประสบการณ์ในการแข่งขันอีสปอร์ตได้เป็นอย่างดี”

Rumble ครั้งแรกค่อนข้างเป็นความตั้งใจแบบเล็ก ๆ โดยมี Sue-Min เป็นผู้ริเริ่มขอให้ Rioter คนอื่น ๆ เข้ามาช่วย ก่อนที่จะพัฒนาขึ้นไปตามเวลาจนกลายเป็นการออกนอกสถานที่เพื่อไปเล่นข้ามองค์กรร่วมกับบริษัทอย่าง Amazon, Palantir และ Google เลยทีเดียว
 

หนึ่งสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไป ชื่อทีมที่ดีนั้นส่งผลต่อความสำเร็จจริง ๆ นะ
หนึ่งสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไป ชื่อทีมที่ดีนั้นส่งผลต่อความสำเร็จจริง ๆ นะ


ทุก ๆ ครั้งที่เราปล่อยตัวเกมใหม่ เกมเหล่านั้นก็จะถูกเพิ่มเข้ามาใน Rumble ด้วย รอบชิงชนะเลิศ VALORANT ในปีนี้เองก็ร้อนแรงไม่ต่างกับแมตช์แข่ง League ที่เราเคยมีมาก่อน อีกทั้งปีที่แล้วหลายทีมก็ได้เข้าแข่งขันกันใน Wild Rift โดยในเดือนหน้า TFT Rumble เองก็จะเปิดให้เข้าร่วมได้ทั่วโลก ทำให้ Rioter จากรอบโลกมีโอกาสได้เข้าแข่งขันกันใน Rumble ระดับโลกครั้งแรกของเรา อีกทั้งในอนาคตเราก็อาจจะเพิ่มเกมต่อสู้ 2v2 บางเกมเข้ามาด้วย เพื่อนำจิตวิญญาณแห่ง FGC เข้ามาร่วมกับเราใน 2XKO Rumble

สาเหตุที่เรายังคง Rumble

ทำไมเราถึงยังทำสิ่งนี้อยู่เรื่อย ๆ? เป็นเวลาเกือบสิบปีที่เราลงทุนลงแรงไปกับโครงการนี้และมันก็ยังคงดำเนินต่อไป แม้แต่ในฤดูใบไม้ร่วงแสนยุ่งในปีนี้ที่มีทั้ง Worlds, Arcane, เซ็ตใหม่ของ TFT และอะไรอีกมากมาย Rioter หลายร้อยคนก็ยังเผื่อเวลาไว้เพื่อฝึกซ้อม แข่งขัน และหมายมั่นที่จะคว้ามงกุฎแห่ง Rumble มาครอบครอง มันค่อนข้างยากที่จะสรุปสาเหตุทั้งหมดที่เรายังคง Rumble ในทุก ๆ ปี แต่ด้านล่างนี้คือ 5 สาเหตุหลัก ๆ:

1. การแข่งขันคือสิ่งสำคัญ สาเหตุเดียวกับที่มีกระดานอันดับภายในเกม สาเหตุเดียวกับที่ผู้คนหลายล้านคนรับชม Worlds และ Champs มันช่วยผลักดันเราไปสู่จุดสูงสุด Rumble ทำให้เกิดการแข่งขันแบบไร้สิ่งเจือปนที่ซึ่งทักษะส่วนบุคคล ทีมเวิร์ค และกลยุทธ์ต่าง ๆ จะได้มีโอกาสเฉิดฉาย 

2. เราจริงจังกับเกม แม้ว่าการแข่งขันใน Rumble จะเน้นกระชับมิตร แต่จุดมุ่งหมายนั้นก็ค่อนข้างจริงจัง คุณไม่มีทางเจอผู้เล่นโยนเกมในแมตช์แข่งขัน Rumble เพราะ Rumble คือทัวร์นาเมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ มันคือช่วงเวลาในการเอาจริงเอาจังและพยายามให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ 

3. อีสปอร์ตในทุกระดับ แม้ว่าจะไม่มีใครใน Riot ที่สามารถเข้าไปแทนที่ตัวอักษรใน ZOFGK (T1 ชุดปัจจุบัน) แต่เราก็มีผู้เล่นฝีมือเยี่ยมอยู่หลายคนเลยล่ะ นั่นคือสาเหตุที่ว่าทำไม Rumble ถึงทำให้เกิดอีสปอร์ตในทุกระดับทักษะ เพราะบางครั้งศึกระหว่างผู้เล่น Silver และ Gold ก็คือศึกที่ร้อนแรงที่สุด วันคืนแห่งศึกระหว่างทีมอีปอร์ต vs. ทีมการเงินยังคงเป็นมุกมาจนถึงทุกวันนี้อยู่เลย 

4. การทำความเข้าใจประสบการณ์ผู้เล่น เมื่อทำงานที่ Riot มันก็สำคัญมากที่คุณต้องเข้าใจประสบการณ์ของผู้เล่นในทุกระดับ เพราะการตัดสินใจของคุณอาจส่งผลต่อทั้งคอมมูนิตี้ได้เลย Rumble จึงเป็นสิ่งที่ช่วยให้ Rioter (แม้แต่เมน TF สุดอ่อนอย่างผม) ได้เห็นและรับรู้ว่าการแข่งขันในสภาพแวดล้อมขั้นสูงนั้นเป็นอย่างไร

5. ก็มันสนุก ในท้ายที่สุด นี่แหละคือสาเหตุที่ทำให้เราเล่นเกม เกมคือหนทางในการสานสัมพันธ์กับผู้อื่น ท้าทายตนเอง และสนุกสนานไปในระหว่างทาง เราค้นพบว่า Rumble สามารถช่วยส่งเสริมสิ่งนี้ที่ทำให้เกมพิเศษกว่าใคร 

Rumble และอีสปอร์ตนั้นเดินทางมาไกลมากนับตั้งแต่ปี 2012 แต่สาเหตุหลักที่ทำให้เราสร้างอีเวนต์นี้ขึ้นมาตั้งแต่แรกนั้นไม่เคยเปลี่ยนไป ยิ่งกว่านั้นคือมันทวีคูณขึ้นไปด้วยซ้ำเนื่องจากเกม ทัวร์นาเมนต์ และคอมมูนิตี้ที่ถูกเพิ่มเข้ามามากขึ้น เอาล่ะ ถ้าคุณไม่ว่าอะไร เราขอไปไต่แรงค์เซ็ต 13 ก่อนนะเพื่อเตรียมตัวสำหรับการคว้ามงกุฎประจำ TFT Rumble (แรงค์ Gold) ที่จะมาถึง

หากคุณอยากรับชม Rioter ในหลากหลายระดับทักษะเข้าห้ำหั่นกันแบบสด ๆ ก็เข้าไปดูได้เลยที่ช่อง Rumble บน Twitch ของเรา