เดือนแห่ง Pride กลับมาแล้ว! ทั้งผู้เล่นและพนักงานของ Riot นั้นล้วนมาจากพื้นเพที่หลากหลาย และเราก็ตื่นเต้นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมเฉลิมฉลอง Pride ไปด้วยกัน ทั้งในเกมและนอกเกม สำหรับ Pride ในปีนี้เราได้ร่วมงานกับศิลปินผู้เปี่ยมไปด้วยความสามารถมากมายจากคอมมูนิตี้ LGBTQIA+ ทั่วทุกมุมโลก เพื่อให้มาสร้างงานศิลปะร่วมเฉลิมฉลองภายในธีม “ภาคภูมิและดุดัน” 

ถือเป็นอีกครั้งที่คอลเลกชัน Pride ของเราจะได้เติบโตไปอีกขั้น เพราะตั้งแต่ที่เราเริ่มต้นการเฉลิมฉลองคอมมูนิตี้ LGBTQIA+ ด้วยคอนเทนต์ภายในเกมในปี 2018 คอลเลกชันของเราก็ยิ่งเติบโตในทุกวันผ่านคอมมูนิตี้ ตัวเลือก และสไตล์ที่เพิ่มพูน เพื่อเป้าหมายในการเฉลิมฉลองและแสดงออกถึงความหลากหลายของอัตลักษณ์ที่พวกเราแต่ละคนมี งั้นก็อ่านต่อไปเพื่อรับรู้เกี่ยวกับคอนเทนต์ฟรีใหม่ ๆ ที่กำลังจะเข้าสู่เกม บันทึกการเล่าเรื่องเกี่ยวกับ LGBTQIA+ ของเราภายใน Riot รวมถึงเข้าไปดูงานศิลป์และเรื่องราวจากศิลปินในคอมมูนิตี้กันได้เลย

Pride ภายในเกม
 

Riot Games Pride In-Game Content


ทุก ๆ เกมของเราจะมีคอนเทนต์ใหม่พิเศษสำหรับ Pride โดยจะมีไอเทมใหม่ ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น อีโมต ไอคอน ฉายา บวกด้วยการกลับมาของคอนเทนต์เก่า ๆ อีกเพียบ ทั้งหมดนี้สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ฟรี สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับไอเทมในเกมรวมถึงวิธีการเป็นเจ้าของ สามารถเข้าไปอ่านได้ในบทความบน Leagueoflegends.com สำหรับเกมที่เกี่ยวข้องกับโลกรูนเทอร์รา และช่องทางโซเชียลของ VALORANT สำหรับคอนเทนต์ของเกมยิงเกมนี้ 

เรื่องราวของ Pride ในจักรวาลของเรา

เราไม่มีเรื่องราวใหม่ที่จะมาเล่าในเว็บไซต์ Universe สำหรับ Pride ในปีนี้ ในอดีตที่ผ่านมาเรามักจะทำการเชื่อมสัมพันธ์ประวัติของตัวละครที่อยู่ในเกมมานานผ่านเรื่องราวใหม่ที่จะถูกปล่อยตัวในเดือนมิถุนายนอย่างหนุ่ม ๆ และบอมโบลินี และเฉิดฉายเคียงกัน เรายังได้ใช้ Worlds เป็นพื้นหลังของการจับมือสร้างสรรค์ร่วมกับป็อปสตาร์ชื่อดังระดับโลกและไอคอนชาว Queer อย่าง Lil Nas X เพื่อนำพาการปล่อยตัว K’Sante ให้กลายมามีชีวิตอีกด้วย นอกจากนั้นเราก็ยังได้ปล่อยภาพ Killjoy จูบกับ Raze ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาก็เพราะว่า… เราคิดว่ามันคือเวลาที่ใช่

เพราะท้ายที่สุดแล้ว เรื่องของอัตลักษณ์ก็ไม่ควรถูกผูกไว้กับเดือนใดเดือนหนึ่ง เราเชื่อสุดใจว่าการนำเสนออัตลักษณ์จะสามารถช่วยสร้างประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีขึ้นได้ตลอดทั้ง 365 วันใน 1 ปี เรายึดมั่นในเรื่องราวและอัตลักษณ์ของตัวละครเป็นอย่างมาก และเราก็อยากที่จะแชร์ตัวตนของพวกเขาในแบบที่ซื่อตรงต่อตัวละครแต่ละตัวให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ ดังนั้นแม้ว่าเราจะไม่มีเรื่องราวใหม่สำหรับ Pride ในครั้งนี้ แต่เมื่อเวลาที่ใช่มาถึงเราก็จะยังคงบอกเล่าเรื่องราวต่อไป โดยไม่สนว่าจะเป็นเดือนไหนก็ตามในปฏิทินการเล่าเรื่องเกี่ยวกับ LGBTQIA+ ของเรา 

พบกับเหล่าศิลปินจากคอมมูนิตี้

สำหรับ Pride ในปีนี้เราจะมีการแบ่งปันผืนผ้าใบร่วมกับเหล่าศิลปินจากคอมมูนิตี้ LGBTQIA+ ผู้เปี่ยมไปด้วยความสามารถจากทั่วทุกมุมโลก เราได้มอบแนวทางง่าย ๆ ให้กับพวกเขาไว้หนึ่งคำ: นั่นก็คือคำว่า “ดุดัน” 

โดยคุณสามารถรับชมภาพศิลป์ที่พวกเขาสร้างขึ้นมาได้ที่ด้านล่าง เข้าไปดูประวัติส่วนตัวและผลงานทั้งหมดของพวกเขา รวมถึงเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวตนของศิลปินเหล่านี้และทำไมงานศิลปะถึงเป็นสิ่งสำคัญกับชีวิตพวกเขา เราจะนำเสนอผลงานของพวกเขาผ่านช่องทางโซเชียลของเราในตลอดทั้งเดือน ดังนั้นก็คอยติดตามงานศิลป์สุดงดงามที่จะมาโผล่ในหน้าไทม์ไลน์ของคุณในเร็ว ๆ นี้เลย 
 

Luz Danaee VALORANT Pride Community Artist


Luz Danaee

VALORANT
สรรพนาม - เธอ / พวกเขา (She / They)

เข้าไปดูงานศิลป์ทั้งหมดของพวกเขาได้ใน Twitter

ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ Luz ยังอยู่ในวัยเรียน ตอนนั้นเธอกำลังมองหาเกมใหม่เล่นอยู่ และเพื่อนของเธอก็แนะนำมาเกมหนึ่งที่มีชื่อว่า League of Legends 

“ฉันติดเกมนี้ไวมาก ๆ และก็เริ่มสร้างสรรค์ผลงานศิลป์เกี่ยวกับเกมนี้มาตั้งแต่ตอนนั้น” Luz กล่าว “นั่นคือจุดเริ่มต้น และจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วที่ฉันได้สร้างผลงานศิลป์ไปพร้อมกับการเล่น League” 

อย่างที่คุณได้เห็นผ่านงานศิลป์ของเธอ แชมเปี้ยนตัวโปรดของเธอก็คือ Katarina มือสังหารผู้พิฆาตราชาแห่งน็อกซัสผู้มีบุคลิกอันซับซ้อนกว่าคมมีดของเธอเป็นไหน ๆ ในขณะที่ Katarina ครองตำแหน่งเป็นขวัญใจของ Luz ในโลกรูนเทอร์รา แต่ก็มีเอเจนท์คนหนึ่งใน VALORANT Protocol ที่เธอเลือกจะแสดงออกผ่านภาพของเธอ 

“มีเพื่อนฉันบางคนที่เล่น VALORANT อยู่ก่อนและก็สตรีมให้ฉันดู” Luz กล่าว “นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันลองเล่นเกม FPS แต่ทั้งเพลงและตัวละครต่าง ๆ กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันอยากเล่นเกมนี้ Killjoy คือตัวโปรดของฉัน ตอนที่ฉันเห็นเธอถูกเพิ่มเข้ามาใน VALORANT ฉันก็ตัดสินใจแล้วว่าต้องเล่นเธอให้ได้ แถมฉันมีเสื้อแจ็คเกตสีเหลืองแบบเธอด้วยนะ และเมื่อฉันเริ่มเล่นฉันก็เริ่มวาดภาพของเอเจนท์ไปด้วย เพราะพวกเขานั้นดูร่วมสมัยซะจนฉันอดไม่ได้ที่จะจับพวกเขาแต่งตัวในแบบที่พวกเขาอาจจะใส่ในชีวิตประจำวัน มันง่ายมากที่จะจินตนาการภาพเอเจนท์ต่าง ๆ ในฐานะคนจริง ๆ” 

ไม่ว่าจะเป็นคมมีดสังหารแห่งน็อกซัสหรือยอดอัจฉริยะจากประเทศเยอรมนี ตัวละครที่ Luz วาดต่างก็มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน

“ฉันชอบวิธีการที่เกมนำเสนอตัวละครผู้หญิงที่ทรงพลัง” Luz กล่าว “นั่นคือสิ่งที่ฉันโฟกัสในงานศิลป์ของตัวเอง ฉันหลงใหลการวาดตัวละครผู้หญิงที่ทั้งทรงพลังและแน่วแน่ การนำเสนอพลังแห่งเพศหญิงคือตัวตนของฉัน และก็เป็นแรงบันดาลใจสำหรับงานศิลป์ของฉันเช่นกัน” 

สำหรับ Luz ทั้งเกมและเหล่าหญิงทรงพลังที่เป็นตัวแทนของมันจึงมักจะกลายเป็นตัวเอกในภาพวาดของเธอ แต่ก็เหมือนกับ Katarina ตรงที่งานศิลป์ของเธอจะเริ่มในเงามืด ก่อนที่จะระเบิดพลังออกมาในแสงสว่างในภายหลัง 

“ฉันนิยามศิลปะของฉันว่ามันคืองานที่เน้นการทดลองและความเป็นไดนามิก และฉันก็มักจะโฟกัสสุด ๆ ไปที่เรื่องแสง เพราะฉันคิดว่านั่นคือสิ่งที่แสดงออกความเป็นตัวตนของฉันได้มากที่สุด” Luz กล่าว “ทั้งหมดมันเริ่มจากความหมกมุ่นเล็กน้อยในเรื่องการหามุมของแสงที่สมบูรณ์ที่สุดที่จะทำให้งานนั้นเฉิดฉายและทำให้ตัวละครมีความรู้สึกแบบ 3 มิติอย่างแท้จริง มันเป็นอะไรที่เพอร์เฟกต์มากสำหรับฉัน เพราะว่าชื่อของฉันคือ Luz ซึ่งมีความหมายว่าแสงสว่างในภาษาสเปน ดังนั้นมันจึงเข้ากันสุด ๆ กับสิ่งที่ฉันโฟกัสในฐานะศิลปิน”
 

Mango Legends of Runeterra Pride Community Artist


Mango

Legends of Runeterra
สรรพนาม - เธอ / พวกเธอ (She / Her)
เข้าไปดูงานศิลป์ทั้งหมดของเธอได้ใน Twitter

“ฉันเริ่มทำงานศิลปะมานานนับตั้งแต่จำความได้ อย่างกับว่าฉันเกิดมาพร้อมดินสอและกระดาษยังไงอย่างงั้น” Mango กล่าว “อิทธิพลแรกเริ่มที่ฉันได้รับนั้นมาจากอนิเมะและมังงะ แต่หลังจากนั้น เกมแบบทีมก็กลายมาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของฉัน ฉันเริ่มวาดภาพโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวละครในเกม ถึงขนาดเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ เพราะฉันอยากที่จะเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวละครและสามารถสร้างงานศิลปะที่ซื่อตรงต่อเรื่องราวของพวกเขาได้

“ฉันเล่น League มาหลายปี และฉันหมายถึงหลายปีจริง ๆ ฉันว่าฉันเริ่มเล่นตอนอายุ 12 และตอนนี้ฉันก็กำลังจะ 23 แล้ว” Mango กล่าวต่อ “ฉันเติบโตมากับเหล่าตัวละครและโลกใบนี้ มันช่างเป็นจักรวาลอันหลากหลายซึ่งเต็มไปด้วยตัวละครที่แตกต่างกันมากมาย อดสงสัยไม่ได้เลยว่าพวกเขาจะมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันและกันอย่างไรบ้าง ฉันว่ามันน่าทึ่งมากที่จะได้จินตนาการถึงภาพฝันที่โลกใบนี้ดำเนินไป และก็มาถึงจุดหนึ่งที่ฉันไม่อยากจำกัดไอเดียของฉันไว้ในหัวอีกต่อไป ฉันเลยต้องเอามันออกมาสู่โลกใบนี้และแสดงออกให้ผู้อื่นเห็น นั่นเป็นสิ่งที่พาฉันเข้ามาสร้างสรรค์งานศิลป์เกี่ยวกับ League และโลกของรูนเทอร์รา”

Mango เป็นผู้สร้างงานศิลป์ของเหล่าแชมเปี้ยนในรูนเทอร์รา ภาพวาด Milio ของเธอถือเป็นงานชิ้นโปรดของพวกเราหลายคน แต่คู่จิ้นโปรดของแฟน ๆ คู่หนึ่งก็มักจะปรากฏให้เห็นมากกว่าคนอื่น ๆ ในงานอาร์ตของเธอ 

“ฉันโฟกัสไปที่การสร้างเรื่องราวของ Queer ในงานศิลป์ของฉัน ถ้าคุณรู้จักฉันดี คุณก็จะรู้ว่าฉันชอบ Sett และ Aphelios พอตัวเลยล่ะ” Mango หัวเราะ “ฉันเห็นตัวเองในพวกเขา เพราะพวกเขาทั้งสองล้วนเป็นตัวละครที่มีธีมหลักเกี่ยวกับการต่อสู้กับเหล่าผู้คนที่คิดว่าพวกเขาไม่สมควรมีที่ยืนในการเป็นตัวของตัวเอง ฉันคิดว่านั่นเป็นการดิ้นรนในแบบที่คนมากมายแบบฉันรู้สึกได้เช่นกัน โดยเฉพาะกับ Sett ที่ฉันรู้สึกเกี่ยวโยงเป็นอย่างมาก เพราะเขาเองก็เป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งวาสทาญ่า ส่วนฉันก็เป็นลูกครึ่งเช่นกัน ดังนั้นวิธีที่เขาต่อสู้กับผู้คนที่คิดว่าเขาต่ำต้อยกว่าจนขึ้นเป็นใหญ่ได้นั้น ฉันคิดว่ามันเป็นอะไรที่สร้างแรงบันดาลใจได้แบบสุด ๆ ในงานอาร์ตของฉัน ฉันมักจะเพิ่มอัตลักษณ์ของตัวเองเข้าไปอีกชั้นหนึ่ง นั่นก็คือความเป็น Queer และความสัมพันธ์กับ Aphelios ซึ่งไม่เคยถูกแสดงออกมาผ่านเนื้อเรื่อง แต่ฉันแค่อยากเห็นตัวเองในตัวละครเหล่านี้มากขึ้นก็เท่านั้น

“การได้รู้จักกับตัวละครและใช้แรงบันดาลใจเหล่านั้นในการสะท้อนประสบการณ์ของตัวเองออกมา ฉันคิดว่านั่นคือหนึ่งในส่วนที่เจ๋งที่สุดของการได้เป็นศิลปิน” Mango กล่าวต่อ “การนำตัวละครเหล่านี้ออกมาจากโลกแฟนตาซีของพวกเขา และนำพวกเขาให้เข้ามาใกล้หัวใจของพวกเรามากที่สุด จะทำให้ความสัมพันธ์ของเรากับตัวละครเหล่านั้นยิ่งแน่นแฟ้นเข้าไปใหญ่ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมฉันถึงรักตัวละครเหล่านี้ใน League เพราะแม้ว่าปัญหาและเรื่องราวของพวกเขาจะเป็นเรื่องแต่งขึ้น แต่หากเราสามารถนำพวกเขาออกมาสู่โลกของเราและสามารถสะท้อนภาพเหล่านั้นได้ พวกเขาก็จะเข้าถึงได้มากขึ้น ทั้งยังดูเป็นมนุษย์มากยิ่งขึ้นอีกด้วย”
 

Hekatiane League of Legends: Wild Rift Pride Community Artist


Hekatiane

League of Legends: Wild Rift
สรรพนาม - เธอ / พวกเธอ (She / Her)
เข้าไปดูงานศิลป์ทั้งหมดของเธอได้ใน Twitter

“ฉันเริ่มวาดภาพมาตั้งแต่ฉันจำความได้” Hekatiane กล่าว “งานภาพของฉันและ League นั้นเริ่มต้นก็ตอนที่ฉันได้ค้นพบเรื่องราวของ Diana และทุกสิ่งที่อยู่รายล้อมมัน ฉันรู้สึกเชื่อมโยงทั้งกับเธอและเรื่องราวของเธอเป็นอย่างมาก และก็อยากที่จะแสดงออกถึงภาพฝันเรื่องราวของเธอในแบบของฉันเอง”

Leona และ Diana สุริยันและจันทรา ต่างก็เกี่ยวพันกันเท่าที่จักรวาลจะเป็นไปได้ เรื่องราวของพวกเขากำเนิดขึ้นมาจากความคาดหวังของสังคม เรื่องราวของการต่อสู้และเกียรติยศ แต่ที่สำคัญก็คือมันเป็นเรื่องราวของความรัก

“ฉันเป็นเลสเบี้ยน และฉันก็มักจะสร้างคอนเทนต์เพศเดียวกันที่ดูน่าสนใจสำหรับฉัน” เธอกล่าว “เรื่องราวของ Diana ช่วยให้ฉันพอใจในตัวตนของตนเองมากขึ้น เรื่องราวของเธอคือการผจญภัยค้นหาตัวเองและการยอมรับในตัวตน เพราะตอนที่ฉันเติบโตขึ้นมานั้นมันไม่มีใครรอบกายฉันเลยที่เป็น LGBTQ ทำให้เมื่อฉันได้อ่านเรื่องราวของ Diana ที่เล่าบาง ๆ ถึงการเป็น Queer รวมถึงการวางตัวต่อโลกรอบ ๆ ตัวของเธอ มันก็ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นกระจกสะท้อนประสบการณ์ของตัวเองเลยล่ะ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม Diana ถึงเป็นตัวละครที่ฉันเลือกใช้เป็นประจำในงานศิลป์ของฉันและทำไมทั้งเธอและ Leona ถึงมีความหมายกับฉันมากเหลือเกิน”

“ฉันจำกัดความงานศิลป์ของฉันเป็นการแสดงออกทางอารมณ์ ผนวกกับการบอกเล่าเรื่องราวเล็กน้อย” Hekatiane กล่าว “อัตลักษณ์ของฉันนั้นเห็นได้อย่างชัดเจนในคอนเทนต์ที่ฉันผลิตออกมา และศิลปะก็ช่วยให้ฉันปลดปล่อยอารมณ์และเรื่องราวต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อตัวฉันได้อย่างแท้จริง” 
 

Vivian "SuperRisu" Truong Teamfight Tactics Pride Community Artist


Vivian “SuperRisu” Truong

Teamfight Tactics
สรรพนาม - เธอ / พวกเธอ (She / Her)
เข้าไปดูงานศิลป์ทั้งหมดของเธอได้ใน Twitter, Instagram และ Art Station

“เนื้อเรื่องคือสิ่งที่ดึงฉันให้เข้ามายังโลกของ League of Legends” Vivian กล่าว “ฉันชอบที่ทุก ๆ ตัวละครมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง รวมถึงเหตุผลที่พวกเขาต้องต่อสู้ ฉันเคยใช้เวลาไปกับการอ่านเนื้อเรื่องของทุกตัวละคร และก็ทึ่งไปกับการแบ่งฝักฝ่ายและการเมืองที่เกิดขึ้น ฉันเริ่มต้นวาดภาพมากมายเกี่ยวกับ League of Legends เมื่อ Vi เปิดตัวออกมาครั้งแรก เธอแตกต่างจากตัวละครหญิงทุกตัวที่ฉันเคยเจอมาก่อน เธอนั้นเป็นยัยตัวแสบ ขวางโลก และไม่เคยแยแสสิ่งใด เธอเท่ระเบิดไปเลยล่ะ และเธอก็เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันเริ่มต้นวาดภาพแฟนอาร์ต”

แฟนอาร์ตถือเป็นส่วนสำคัญในผลงานทั้งหมดของ Vivian และเธอเองก็เป็นศิลปินนักวาดการ์ตูนผู้เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ที่สามารถนำโลกใบใหม่ให้มีชีวิต 

“ด้วยการวาดแฟนอาร์ต คุณก็สามารถวาดในสิ่งที่คุณรักและแชร์ให้ทุกคนได้เห็น จากนั้นศิลปินคนอื่นก็จะสร้างผลงานเหล่านั้นไปเรื่อย ๆ ต่อไป” Vivian กล่าว “League เป็นอะไรที่มีอิทธิพลกับฉันเป็นอย่างมาก ฉันได้พบกับเพื่อนมากมายภายใน League ทักษะในฐานะศิลปินของฉันก็พัฒนาขึ้นเพราะฉันได้สร้างผลงานศิลปะมากมายเกี่ยวกับ League และที่ฉันได้งานทำก็เป็นเพราะแฟนอาร์ตใน League”

ดังนั้นระหว่างความหลงใหลในศิลปะ อัตลักษณ์ และความเชื่อมโยงที่เธอมีต่อ Vi เมื่อซีรีส์ Arcane เปิดตัวออกมา มันก็แทบจะเหมือนว่าซีรีส์นี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อ Vivian โดยเฉพาะเลยล่ะ 

“League คือสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับฉันและยิ่งโดยเฉพาะกับ Vi เพราะมันคือที่ที่ทำให้ฉันได้พบกันคอมมูนิตี้ใหม่และเพื่อนใหม่ในโลกออนไลน์ ที่ที่ฉันไม่สามารถจะหาคอมมูนิตี้แบบนี้ได้จากที่บ้าน” Vivian กล่าว “มันบ้ามากที่ตัวละครหนึ่งจะสามารถมีผลกับบุคลิกของฉันได้ขนาดนี้ และก็เป็นเรื่องวิเศษมากใน Arcane ที่ทุกคนจะได้เห็นเธอเป็นตัวแทนรสนิยมแบบ Queer ที่ซึ่งผู้คนรู้สึกได้จากเธอเสมอมาเสียที เป็นเวลากว่าแปดปีของการรอคอยและฉันก็ดีใจมาก ๆ ที่ได้เห็นเธอเป็นตัวของตัวเองใน Arcane ซะที”

คอมมูนิตี้ออนไลน์สามารถกลายเป็นสถานที่แห่งการปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ โดยเฉพาะเมื่อการปลดปล่อยนั้นไม่สามารถทำได้ในโลกแห่งความเป็นจริง 

“ฉันเป็น Queer ชาวเอเชีย และก็เติบโตมาในครอบครัวที่ค่อนข้างหัวโบราณ” Vivian กล่าว “การที่ฉันสามารถวาดในสิ่งที่ต้องการช่วยทำให้ฉันมีอิสระในแบบที่หาไม่ได้จากทั้งที่บ้านและสังคม ฉันสามารถวาดในสิ่งที่ต้องการและแชร์มันกับผู้คนที่มีมุมมองและความสนใจเหมือนกันจากทั่วโลก ฉันชอบวาดภาพคู่รักและก็ตัวละครที่เป็น Queer แบบสุด ๆ เพราะมันน่าจะช่วยให้ผู้คนมองเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติได้มากขึ้น และฉันก็อยากที่จะพูดได้เต็มปากว่า ‘นี่คือตัวตนของฉัน และมันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากคนอื่นเลยด้วย’ และฉันก็มีความสุขมากที่ได้แสดงตัวตนผ่านงานศิลปะของฉันเอง”
 

Grace - Ryuun Art League of Legends Pride Community Artist


Grace - Ryuun Art

League of Legends
สรรพนาม - เธอ / พวกเธอ (She / Her)
เข้าไปดูงานศิลป์ทั้งหมดของเธอได้ใน Twitter และ Art Station

“ฉันเป็นคนไม่ค่อยสนใจเล่นเกมเท่าไร จนมีเพื่อนมาขอให้ฉันลองเล่น League of Legends ในช่วงที่ฉันเรียนมัธยมปลาย” Grace กล่าว “จากนั้นเป็นต้นมา ก็กลายเป็นว่ามันไปต่อไม่หยุดเลยล่ะ ฉันสมัครบัญชี Steam จากนั้นก็เริ่มขยายช่องทางสื่อของฉันและเริ่มสร้างสรรค์ผลงานแฟนอาร์ตจากวิดีโอเกมและแอนิเมชันมากมายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา”

เมื่อคุณได้ลองผ่านช่วง Steam Summer Sale ไปครั้งหนึ่งแล้ว บอกได้เลยว่าคุณจะถอนตัวไม่ขึ้น

“เรื่องราวของ League นั้นดึงดูดฉันและจากนั้นฉันก็เริ่มเล่นเกมแนว RPG หลายเกมมาก ๆ” Grace กล่าวต่อ “นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ฉันชอบ Ruined King เป็นอย่างมาก เพราะฉันแค่อยากที่จะเรียนรู้เรื่องราวมากขึ้น แต่จริง ๆ ถ้าให้พูดถึงเรื่องงานศิลป์ของฉัน ตอนแรกฉันนั้นเริ่มสนใจมาจากเรื่องเกมเพลย์มากกว่า ฉันเริ่มต้นจากการทำมีมเล็กน้อยหรือพวกโพสต์ฮา ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการเล่น Rift เพื่อนของฉันจะเล่น Mundo และฉันก็จะเล่น Riven ตัวเมนตัวแรกของฉัน และเราก็โดนโถมว่าเป็นตัวตลกอย่างหนักเลยล่ะ แต่ฉันก็อยากที่จะสร้างภาพนั้นขึ้นมาใหม่และวาดตัวละครเหล่านั้นให้อยู่ด้วยกัน”

บางครั้งตัวละครก็ถูกออกแบบมาให้เล่นด้วยกันแบบ Xayah และ Rakan บางครั้งเหล่าตัวละครก็แตกต่างกันอย่างที่สุด แต่ว่าในบางเหตุผลแล้ว กลับออกมาดีซะอย่างนั้น 

“ถ้าตามเนื้อเรื่องแล้ว Mundo กับ Riven คงไม่มีทางจะเปิดปากคุยกันหรอก” Grace หัวเราะ “แต่คุณสามารถสร้างให้พวกเขาทำเรื่องตลกได้มากมาย นั่นก็เพราะเกมมันเป็นแบบนั้น รวมถึงอีกหลากหลายสถานการณ์ที่คุณสามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้อีกเยอะ”

ศิลปะของเธอนั้นเดินทางมาไกลมากจากการเป็นมีมของ Mundo เธอนิยามงานของเธอในตอนนี้ว่าเป็นงานแบบกึ่งสมจริงที่มากไปด้วยสไตล์ ซึ่งสะท้อนถึงอนิเมะและการ์ตูนที่เธอรับชมและเติบโตมาในตอนเด็ก 

“ศิลปะคือหนทางในการปลดปล่อยและแสดงออกถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขเกี่ยวกับเพศเดียวกัน” Grace กล่าว “ฉันก็เป็นแค่สาวธรรมดาคนหนึ่งที่หลงใหลในตัวผู้หญิงและรักการวาดภาพพวกเธอเอามาก ๆ แต่ศิลปะก็เป็นหนทางหลบหนีเช่นกัน ฉันโตมากับครอบครัวที่ไม่เก่งเรื่องการแสดงความรู้สึก เรามักจะเก็บกดสิ่งต่าง ๆ ไว้ ครอบครัวชาวเอเชียหลายคนก็น่าจะเข้าใจนะว่าฉันหมายถึงอะไร ซึ่งทำให้ฉันเจอกับช่วงเวลาอันหนักหน่วงในการแสดงออกว่าแท้จริงแล้วฉันเป็นคนแบบไหน โชคดีที่การวาดภาพได้กลายเป็นทางออกที่ช่วยให้ฉันสามารถแสดงสิ่งที่ฉันไม่สามารถคุยกับพวกเขาได้  สำหรับโลกออนไลน์และผ่านงานศิลปะของฉัน ฉันก็รู้สึกได้ว่าฉันสามารถแสดงด้านนี้ของฉันได้ มันทำให้ฉันสามารถเชื่อมโยงกับเหล่าผู้คนในคอมมูนิตี้ ที่ซึ่งนำพาให้ฉันได้เจอเพื่อนแท้ ศิลปะช่วยให้ฉันได้เฉลิมฉลองว่าเราเป็นใครและอะไรคือสิ่งที่เราจะเพลิดเพลินไปกับมัน”
 

Octavia Unholythorne Riot Games Music Pride Community Artist


Octavia - Unholythorne 

Riot Games Music
สรรพนาม - เธอ / พวกเธอ (She / Her)
เข้าไปดูงานศิลป์ทั้งหมดของเธอได้ใน Twitter และ Instagram

“ฉันสร้างสรรค์ผลงานศิลปะมาทั้งชีวิต แต่การสร้างงานศิลป์ที่เกี่ยวกับเกมถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับฉัน” Octavia กล่าว “ฉันเป็นเกมเมอร์มาตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นทั้งเกมและศิลปะต่างก็มีอิทธิพลต่อชีวิตฉัน แต่ทั้งสองก็ไม่ได้มาผนวกรวมกัน จนกระทั่งฉันได้รู้จักกับแฟนอาร์ตเมื่อปีที่แล้ว” 

ในขณะที่ศิลปินหลายคนในโปรเจกต์นี้ได้พบหนทางด้านแฟนอาร์ตของตัวเองผ่าน Runeterra และ League of Legends แต่ Octavia กลับได้รับแรงบันดาลใจจากจักรวาลอื่น ซึ่งเป็นจักรวาลที่สะท้อนถึงตัวตนของเรา 

“VALORANT เป็นเกมที่ทำให้ฉันอยากวาดแฟนอาร์ต งานชิ้นแรกที่ฉันทำคือ Viper และนั่นคืองานศิลป์ชิ้นแรกที่เกี่ยวข้องกับเกมของฉัน” เธอกล่าว “ฉันมักจะถูกดึงดูดโดยสภาพแวดล้อมและความเป็นธรรมชาติ ดังนั้นฉันจึงชื่นชอบแผนที่ใน VALORANT และฉันก็ได้เริ่มสำรวจลงลึกโลกของเกมนี้ขึ้นเรื่อย ๆ”

ถือเป็นเรื่องยากที่จะลงรายละเอียดในแผนที่เมื่อคุณต้องคอยกันมุมอยู่ในไซต์ B แต่ถึงอย่างนั้น Octavia ก็ได้พบกับช่วงจังหวะแห่งแรงบันดาลใจของเธอ 

“คอมพิวเตอร์ของฉันมันค่อนข้างเอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ ดังนั้นฉันจึงต้องเล่นผ่านการตั้งค่าแบบต่ำ จนวันหนึ่งที่ฉันลองเปิดการตั้งค่าเป็นแบบสูงเล่น ๆ และฉันก็ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีดอกไม้ยักษ์บานประกายอยู่ใน Lotus ด้วย” เธอหัวเราะ “เรียกได้ว่าตั้งแต่รอบนั้นฉันก็สติหลุดไปเลยล่ะ เพราะฉันจะหยุดดูรายละเอียดบนแผนที่และก็พิมพ์บอกทีมประมาณว่า ‘พวกนายเคยเห็นดอกลิลลี่ตรงนี้ไหมเนี่ย??’”

ในฐานะศิลปิน เธอมักจะถูกดึงดูดโดยความเป็นธรรมชาติ แต่ไม่ใช่แบบต้นไม้แห่งความสุขของ Bob Ross หรอกนะ แต่เป็นป่าทมิฬที่ปกคลุมไปด้วยความลึกลับและเวทมนตร์ต่างหาก ซึ่งก็ดูเข้ากันดีกับศิลปินที่มีนามปากกาว่า unholythorne ล่ะนะ 

“เมื่อโตขึ้นชีวิตของฉันก็มีการเปลี่ยนแปลงเสมอ” Octavia กล่าว “แต่ศิลปะเป็นสิ่งที่คงอยู่ในชีวิตของฉันเสมอมา มันคือบางสิ่งที่อยู่ข้างฉันมาโดยตลอด มันคือที่ที่ฉันสามารถสร้างพื้นที่ปลอดภัยของตัวเองได้ การได้อยู่ท่ามกลางศิลปิน LGBTQIA+ คนอื่น ๆ ในโปรเจกต์นี้เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก พวกเราทุกคนรักในการวาดภาพผู้หญิงตามความงดงามในแบบของเรา และก็ต้องบอกว่ามันเป็นเกียรติจริง ๆ ที่ฉันได้เป็นส่วนหนึ่งในคอมมูนิตี้นี้และได้อยู่ท่ามกลางศิลปินมากฝีมือคนอื่น ๆ แบบนี้”
 

ARTeapot Riot Games Pride Community Artist


ARTeapot

สรรพนาม - เขา / พวกเขา (They / Them)
เข้าไปดูงานศิลป์ทั้งหมดของพวกเขาได้ใน Twitter และ Art Station

“ฉันลงมือทำแฟนอาร์ตเกี่ยวกับเกมมาตั้งแต่ที่ฉันเริ่มต้นวาดภาพ” ARTeapot กล่าว “ฉันเป็นแฟนเดนตายของ Legend of Zelda ดังนั้นฉันจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ในช่วงเรียนมหาลัยไปกับการวาดภาพแฟนอาร์ตธีม Legend of Zelda หรือ Kid Icarus จากนั้นก็เริ่มต้นงานศิลป์ของ League of Legends งานแรกในปี 2013 ในตอนที่ Jinx เปิดตัว เพราะเธอดูน่าสนุกดี แต่สุดท้ายกลับเป็น Illaoi ที่ได้ครองใจฉันไป และฉันก็เริ่มต้นลงลึกไปกับ League ในฐานะเกม ๆ หนึ่งตั้งแต่ตอนนั้น” 

เราโชคดีที่เริ่มโปรเจกต์นี้ไปก่อนเกม Legend of Zelda: Tears of the Kingdom จะเปิดตัว ทำให้ ARTeapot สามารถใช้เวลาไปกับงานศิลปะของเขาได้ ก่อนที่จะพุ่งความสนใจทั้งหมดไปกับการผจญภัยครั้งใหม่ในดินแดน Hyrulian 

“ฉันเป็นนักวาดการ์ตูนจากก้นบึ้งหัวใจ ดังนั้นเมื่อฉันได้อ่านเรื่องราวและประวัติของแชมเปี้ยน ในหัวของฉันก็แทบจะเปลี่ยนทุกอย่างเป็นช่องและลำดับเหตุการณ์ไปอย่างอัตโนมัติเลย” ARTeapot กล่าว “ฉันให้ความสนใจแชมเปี้ยนหลายตัวมาก ๆ ใน League รวมถึงวิธีที่พวกเขาแสดงออก ตอบสนอง และโต้ตอบด้วย ด้วยเหตุการณ์มากมายที่เกิดขึ้น ไลน์สกินเสริม และโลกต่าง ๆ ภายใน League ฉันก็มีการ์ตูนกว่าพันเรื่องที่อยากจะวาด พร้อมกับล้านกว่าเรื่องราวที่ฉันอยากเขียนมันออกมา”

ศิลปะของเขามักจะสะท้อนความงามของศิลปะรูปแบบการ์ตูนได้อย่างชัดเจน และยังจำกัดความงานศิลป์ของตัวเองไว้ว่าเป็น “เด็กน้อยผู้คาดเดาไม่ได้ซึ่งกำลังตั้งใจวาดรูปอย่างบ้าคลั่งด้วยสีเทียน” ศิลปะของเขานั้นช่างจัดจ้าน เต็มไปด้วยสีสัน ซับซ้อน และน่าหลงใหลไม่รู้จบ

“ตอนที่ฉันวาดเรื่องราวฉันจะใส่ตัวละครที่มีความเป็น Queer ลงไป เพราะนั่นคือตัวตนของฉันและมันก็เป็นเรื่องปกติของฉันที่เป็นแบบนั้น” ARTeapot กล่าว “สิ่งที่ฉันวาดจะสะท้อนถึงสิ่งที่ฉันรู้สึกรวมถึงตัวตนของฉัน ฉันไม่ได้ทำงานศิลป์แบบ Queer เพื่อต้องการแสดงออกถึงความเป็น Queer แต่เพราะฉันเป็น Queer งานศิลป์ของฉันจึงออกมาเป็นแบบนี้ต่างหาก แม้ว่าจะเกิดมาในประเทศและในยุคที่คนแบบฉันมักจะไม่ได้รับการต้อนรับ แต่ก็ถือว่าฉันโชคดีมาก ๆ ที่มีอิสระมากพอที่จะตัดสินใจว่าฉันเป็นอะไรและก็ไม่ใช่ธุระของใครที่จะมาตัดสินมัน”